บุญ และปาฏิหาริย์
*********************
บุญคือที่พึ่งได้จริง และสวรรค์มีตาเป็นคำสอนที่พระอริยะเจ้าหลายรูปทั้งที่ละสังขารไปแล้วและยังดำรงธาตุขันธ์อยู่ก็ตาม ท่านได้เมตตาสอนและย้ำไว้กับกระผมอยู่เสมอ ทำให้กระผมต้องระมัดระวังในการสร้างบาปและความชั่วต่างๆ แล้วก็พยายามทำความดีให้มากๆเข้าไว้ ถึงคราวขับขันหรือมีภาวะวิกฤตก็อาจจะทำให้จากที่หนักจะกลายเป็นเบาและจากที่เบาๆก็จะไม่เกิดขึ้นก็ได้ ซึ่งกระผมก็เชื่อฟังและปฏิบัติตามถึงแม้จะยังไม่สนิทใจนัก เพราะปัญญาญานของกระผมยังน้อยและกิเลสยังหนาอยู่นั้นเอง
แต่เมื่อมีอายุและประสบการณ์ชีวิตมากขึ้น มีการเก็บข้อมูลสถิติต่างๆแล้วก็วิเคราะห์เอาเองว่า บาปกรรมและคุณงามความดีมีจริงไหม? ทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่วไหม? ก็พบว่าเป็นจริงถึงแม้จะยังพิสูจน์ไม่หมดก็ตาม และที่สำคัญมากที่สุดก็คือการได้ศึกษาพระพุทธศาสนาและลงมือปฏิบัติธรรมโดย การวิปัสสนากรรมฐานทั้งนอกหลักสูตรการศึกษา คือ การไปเข้าปฏิบัติกรรมฐานที่ วัดอัมพวัน อำเภอพรหมบุรี จังหวัดสิงห์บุรี ที่มีพระเดชพระคุณ หลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโม เป็นเจ้าอาวาส ซึ่งท่านเป็นผู้ที่ได้รับการยอมรับว่าเป็น กระบี่มือหนึ่งของพระวิปัสสนาจารย์ในยุคปัจจุบันนี้เลยทีเดียว โดยเริ่มปฏิบัติครั้งแรกเป็นเวลา๕ วันติดต่อกันเมื่อปลายปีพ.ศ.๒๕๔๖ แล้วก็นำมาปฏิบัติที่บ้านบ้างตามสมควร และก็ไปทบทวนการปฏิบัติที่วัดอัมพวันอีกครั้งละ๓ วันบ้าง ครั้งละ๗ วันบ้าง และก็ไปทุกปี และเมื่อได้มีโอกาสได้ศึกษาพระพุทธศาสนาตามหลักสูตร ปริญญาเอก ของบัณทิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย หรือ มจร.เมื่อปี พ.ศ.๒๕๕๑ และก็มีการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานเหมือนกัน ซึ่งทั้ง๒ แห่งนี้ คือทั้งหลักสูตรของวัดอัมพวันและของมจร.นี้ ได้สอนการวิปัสสนากรรมฐานในแนวทางและวิธีการของ สติปัฏฐาน ๔ อันเป็น ทางสายเอก เป็น ทางสายเดียวเท่านั้น ในการที่จะนำพามนุษย์ เทพ และพรหม หรือผู้ปฏิบัติได้หลุดพ้นสู่ พระนิพพานได้ในที่สุด
จากการทั้งศึกษาภาคพระพุทธศาสนาทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัตินั้นพบว่า บาปบุญมีจริง และบุญเป็นที่พึ่งได้จริง ซึ่งการทำบุญสร้างกุศล และสร้างบารมีนั้น สามารถที่จะกระทำได้หลากหลายวิธีการและหลากหลายรูปแบบตามที่พระพุทธองค์ได้สอนไว้ ในเรื่องส่วนตัวของกระผมนั้นนอกจากจะเคารพบูชาและสักการะ พระรัตนตรัยคือ พระพุทธเจ้า พระธรรมเจ้า และพระสงฆ์เจ้าแล้วนั้น กระผมยังได้เคารพสักการะและบูชา หลวงปู่เทพโลกอุดรทั้ง๕ ท่านอยู่เสมอ และได้นำ ผ้ายันต์ป้องกันภัยพิบัติจากธรรมชาติของท่านมาจาก สถานธรรมพระบรมครูหลวงปู่เทพโลกอุดร อำเภอพล จังหวัดขอนแก่น ที่มี แม่ชีมณีจันทร์ เลิศหิรัญปัญญา เป็นเจ้าสำนักและดูแลอยู่ มาทำการกราบไหว้ สักการระบูชา และติดไว้ที่บ้านซึ่งเป็นที่ตั้งและสำนักงานของ บริษัท สุ จิ ปุ ลิ จำกัดนั้นเอง และที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งเมื่อกลางปีพ.ศ.๒๕๕๔ กระผมได้เกิดศรัทธาอันแรงกล้าต่อ พญาครุฑที่ท่านได้ปกปักรักษาคนไทย ประเทศไทยของเรา และพระพุทธศาสนา โดยเฉพาะพระเจ้าอยู่หัวและสถาบันพระมหากษัตริย์ของสยามหรือประเทศไทยเรามาตั้งแต่โบราณกาลจนถึงปัจจุบันอย่างดียิ่งตลอดมา ก็เลยได้ทำการกราบไหว้สักการบูชา และสวดมนต์บูชาพระคาถา พญาครุฑจิตรสุบรรณของพระเดชพระคุณ พระอาจารย์โต ฐิตวิริโยแห่งวัดพระบาทปางแฟน อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ โดยบูชามาไว้ที่บ้านหรือที่สำนักงานบริษัทฯ เช่นกัน ซึ่งเป็นพระผง๑ องค์เล็กๆ ในความเลื่อมใสและศรัทธาที่มีมากต่อพญาครุฑนั้น ซึ่งนอกจากจะกราบไหว้ สักการบูชา และสวดมนต์พระคาถาบูชาท่านแล้ว กระผมยังได้ตั้งจิตอธิษฐานว่า จะไม่กินสัตว์ปีกจนกว่าชีวิตจะหาไม่ เป็นการตอบแทนพระคุณของท่านในการที่พญาครุฑท่านได้ปกป้องเราคนไทย พระพุทธศาสนา และพระมหากษัตริย์ด้วยดีและตลอดมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน และในอนาคตอีกด้วยนั้นเอง
ในยามวิกฤติและคับขันคือเกิด มหาอุทกภัยในปลายปีพ.ศ.๒๕๕๔ ที่ผ่านมา ซึ่งใหญ่หลวงที่สุดตั้งแต่ตั้งกรุงรัตนโกสินทร์ หรือกรุงเทพฯของเรานี้มา และแน่นอนว่า บ้านของผมหรือสำนักงานของผม คือ บริษัท สุ จิ ปุ ลิ จำกัด ซึ่งตั้งอยู่ที่ บ้านเลขที่๖๑/๒๐๗ หมู่ที่๘ ตำบลบึงบอน อำเภอหนองเสือ จังหวัดปทุมธานี (รังสิตคลอง๗) ซึ่งเมื่อฟังที่ตั้งและที่อยู่แล้ว คงไม่รอดจากวิกฤตน้ำท่วมครั้งนี้อย่างแน่นอน แต่ ปาฏิหาริย์มีจริง หรือ บุญมีจริง หรือ อิทธิฤทธิ์มีจริงก็ยากจะรู้ได้ ปรากฏว่าบ้านหรือสำนักงานของผมไม่มีน้ำเข้ามาท่วมแม้แต่ถนนในซอยหน้าบ้านเลย ซึ่งไม่ต้องพูดถึงในบ้านหรือในตัวอาคารสำนักงานแต่อย่างใด ซึ่งก่อนหน้าน้ำจะท่วมนั้น กระผมได้เก็บข้าวของเครื่องใช้บางส่วนขึ้นไว้บนชั้น๒ ไว้แล้ว และได้หนีไปอาศัยอยู่กับญาติที่จังหวัดสระบุรี ซึ่งกระผมทำใจไว้แล้วว่าคงจะท่วมบ้านของกระผมอย่างแน่นอน แต่ก็อธิษฐาน สวดมนต์ และขอพรอยู่ตลอดมาและย้ำหนักมากขึ้นในช่วงวิกฤตินั้น แต่ก็ไม่ได้หวังผลอะไรมากนัก เพราะปริมาณน้ำมากมายขนาดนั้น ขนาดว่ามหาวิทยาลัยดังๆหลายแห่ง และนิคมอุตสาหกรรมต่างๆก็เอาไม่อยู่! บ้านเราก็คงไม่รอด แต่!ก็รอดมาจนถึงทุกวันนี้
ทำให้กระผมยิ่งเคารพและเชื่อมั่นใน บุญกุศล และคุณงามความดีที่ผมทำมา และการเคารพ สักการบูชาใน หลวงปู่เทพโลกอุดร และ พญาครุฑจิตรสุบรรณก็เลยทำให้กระผมรอดพ้นจากวิกฤตน้ำท่วมครั้งนี้ได้ และกระผมก็ไม่ได้ติดขัดเดือดร้อนและเกิดอุบัติเหตุใดๆในช่วงวิกฤตนั้นเลย อาจเป็นเพราะว่ากระผมไม่ได้ทำลายหรือทำร้ายบ้านเมือง กระผมไม่ได้ปิดถนน เดินขบวน ประท้วงกีดขวางสร้างความลำบากและเดือดร้อนให้กับผู้อื่นและชาติบ้านเมือง ไม่ได้เผาบ้าน เผาเมือง ไม่ได้ทำลาย หรือทำร้ายเทพ พรหมองค์ใดๆ และกระผมก็เคารพเทิดทูนยกย่องและสรรเสริญพระเจ้าอยู่หัวและพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ ตลอดจนบูรพกษัตริย์และบรรพบุรุษของไทยเราทุกท่านเสมอมา ไม่ได้ไปร่วมสร้างความเดือดร้อนตามสถานที่สาธารณะและไม่สาธารณะต่างๆ โดยสวมใส่เสื้อสีนั้นใส่เสื้อสีนี้แต่อย่างใด?
ซึ่งกระผมอนุมานเอาเองว่ากระผมคงจะไม่เป็นไร ก็เพราะอาศัย บุญและ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ว่าท่านคงจะช่วยเหลือนั้นเอง เพราะในความคิดเห็นส่วนตัวของกระผมนั้นก็คือว่า ยันต์ป้องกันภัยธรรมชาติ ก็น่าจะป้องกันภัยธรรมชาติได้ และพญาครุฑก็คงจะกันน้ำจากพญานาคได้นั้นเอง และในช่วงที่กำลังเกิดวิกฤตินั้น กระผมก็ได้ไปทำบุญกับพระอริยะเจ้าและขอพรจากท่าน ซึ่งท่านก็มีท่าทางเอ็นดูและสงสาร โดยท่านได้พูดมาว่า ไม่เป็นไรหรอก ใครบูชาปู่ฯ บูชาพญาครุฑ ท่านจะช่วย? ซึ่งกระผมก็ไม่ได้คิดอะไรมาก คิดว่าท่านคงปลอบใจให้กระผมทำใจ และเพื่อเป็นการไม่ให้วิตกกังวลมากเกินไปเท่านั้นเอง เพราะจากการฟังข่าวและดูทีวีแล้วนั้น ยังไงบ้านของกระผมก็ไม่รอดแน่ และเมื่อน้ำลดลงแล้วกระผมได้กลับเข้ามาตรวจดู ก็พบว่าหมู่บ้านรอบๆและข้างๆหมู่บ้านที่กระผมอยู่นั้น ต่างก็จมน้ำและท่วมอยู่มากกว่า๒ เดือนบางแห่งก็๓ เดือนและกว่านั้นก็มี จึงค่อยๆดีขึ้น อนิจจา!
สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นและผ่านพ้นไปได้อย่างไร? จนถึงทุกวันนี้กระผมก็ยังงงๆอยู่? แต่ไม่กล้าแสดงออกหรือพูดมากไปเพราะรอบข้างกายเรานั้นมีหลายคนที่เขาไม่โชคดีเหมือนเรานั้นเอง ถึงอย่างไรก็แล้วแต่ ในเกิดมาเป็นมนุษย์และอยู่กับธรรมชาติ กระผมคิดว่ายังไงก็ต้องมีผลกระทบต่อกันไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง แต่สิ่งที่ต้องทำตลอดไปคือ การละเว้นจากการทำความชั่วทั้งปวง การทำแต่ความดี และทำจิตใจให้ผ่องใส และ เคารพสักการะและบูชาพระรัตนตรัยอยู่เสมอ และยังมีสิ่งที่กระผมยังต้องจะกระทำตลอดไปก็คือ การเคารพสักการบูชา และสวดมนต์พระคาถาบูชาท่าน หลวงปู่เทพโลกอุดร และ พญาครุฑจนตราบวันสิ้นลมหายใจแล้วนั้นเอง
จาก ศิษย์ปู่ฯ/ศิษย์ตถาคต
๒๓ มกราคม ๒๕๕๕