นิทานปรัมปรา
ความเดือดร้อนของประเทศสารขันธ์
********************************
ในอดีตกาลนานมาแล้ว มีประเทศหนึ่งๆบนดาวดวงหนึ่ง ชื่อประเทศสารขันธ์ ซึ่งมีประมุขประธานประเทศที่เป็นพระโพธิสัตว์ลงมาเกิดและทำการปกครองโดยธรรมอย่างสงบสุขสืบมาเป็นเวลาช้านาน หมู่ชนทั่วทั้งดวงดาวต่างอิจฉาและอยากได้ผู้ปกครองแบบนี้ในประเทศของตนบ้าง แต่ประเทศสารขันธ์นี้ก็มีเวรมีกรรมที่ฝ่ายอธรรมโดยพญามารก็ลงมาเกิดด้วยและยังส่งลูกสาวทั้ง ๓ คนของตน คือ นางตัณหา นางราคะ และนางอรดี พร้อมทั้งเสนามารทั้งหลายลงมาเกิดอีกด้วย เพื่อหวังจะทำลายฝ่ายธรรมะแล้วสถาปนาระบอบอธรรมขึ้นมา แล้วเป็นใหญ่ทำการปกครองและเป็นประมุขแทนพระโพธิสัตว์นั้นเอง
ทั้งธรรมะและอธรรมต่างฝ่ายต่างชิงไหวชิงพริบเปลี่ยนกันรุกและรับอย่างยืดเยื้อและยาวนาน ฝ่ายธรรมะและคนดีๆมีจำนวนน้อย ส่วนหมู่มารมีพรรคพวกและบริวารมากมาย เมื่อหมู่มารทำการยึดอำนาจและเปลี่ยนระบอบการปกครองจากระบอบประมุขใหญ่ปกครองประเทศ มาเป็นการเอาเสียงส่วนใหญ่ของคนในประเทศที่เลือกตัวแทนไปบริหาร ซึ่งกฎเกณฑ์และกฏกติกาที่ว่านี้ใครมีเสียงข้างมากคนนั้นมีอำนาจปกครอง ทำให้หมู่มารได้ทำการปกครองและบริหารบ้านเมือง เมื่อปกครองแล้วก็เสวยสุขกอบโกย และโกงกินอย่างมูมมามโดยไม่สนใจความเดือดร้อนของประชาชนตาดำๆที่ซื่อและไม่ทันเล่ห์เลี่ยมของพวกหมู่มารแต่อย่างใด ได้แต่เป็นบันใดให้เขาขึ้นสู่อำนาจ โดยหมู่มารได้หลอกให้ฝันหวานกับนโยบายเอาอกเอาใจต่างๆนาๆ หลอกถลุงเงินและทรัพยากรของชาติ ทั้งที่ตัวเองและบริวารต่างหลบเลี่ยงไม่ยอมจ่ายภาษีกันทั้งนั้น แล้วโยนเศษเนื้อข้างเขียงให้ชาวบ้านได้กิน แค่นั้นก็ทำให้ชาวบ้านที่ซื่อดีอกดีใจและถือว่าเป็นบุญคุณมากแล้ว และก็ยังถือเป็นบุญคุณซึ่งจะต้องเลือกเขาอีกถ้ามีการเลือกตั้งกันใหม่
แต่ก็มีคนดีๆเพียงส่วนน้อยที่มีอำนาจเป็นอำมาตย์ที่จงรักภักดีกับขุนทหารบางท่าน เห็นว่าบ้านเมืองจะล่มจม และมีการทำลาย ทำร้ายและหมิ่นประมุขประธานประเทศที่เป็นคนดี เลยทำการปฏิวัติหมู่มารแล้วทำการจัดระเบียบและปกครองอยู่เพียงระยะเวลาสั้นๆ และได้เขียนกฎกติกาขึ้นใหม่ให้ดีขึ้นและไม่ให้มีการหมิ่นเบื้องสูงแต่อย่างใด แล้วก็ลงประชามติรับกฎกติกานั้น แล้วเลือกตั้งกันใหม่ แต่เมื่อหมู่มารมีจำนวนมีมากและได้ทำการล้างสมองและซื้อเสียงจากเงินที่โกงประเทศมาอย่างมากมายมหาศาลนั้น ก็ทำให้ได้เสียงข้างมากได้เข้ามาบริหารประเทศอีก
กรรมและเวรของประเทศนี้ยังไม่สิ้น ผู้เป็นประมุขประธานก็แก่ชราภาพและมีโรคภัยเบียดเบียนเป็นธรรมดา ทำให้พญามารและหมู่มารคึกคักเป็นพิเศษ เพราะเห็นว่าหลังสิ้นประมุขประธานแล้วก็จะสถาปนาระบอบมารขึ้นมาแทนซึ่งบริวารของตนเข้าควบคุมกลไกประเทศนี้ไว้เกือบหมดแล้วนั้นเอง โดยเฉพาะการปลดคนดีๆฝ่ายธรรมะที่รับใช้ชาติและพระโพธิสัตว์ด้วยความซื่อสัตย์ยุติธรรมทั้งหลายทั้งภาคราชการและรัฐวิสาหกิจสำคัญๆทั้งหลาย ทั้งนี้เพราะหากเป็นระบอบเดิมซึ่งตัวเองไม่มีเชื้อสาย ก็ไม่ได้เป็นประมุขนั้นเอง อีกทั้งว่าที่ประมุขใหม่ที่เป็นเชื้อสายก็ไม่มีบุญบารมีเพียงพอที่จะสืบทายาทต่อนั้นเอง อีกทั้งนางตัณหาลูกสาวของพญามารที่ไปเกิดในรั้วในวัง ซึ่งหวังว่าจะได้เป็นหนึ่งโดยอาศัยวิธีลัด ก็ได้ทอดสัมพันธ์กับพญามารซึ่งหย่าเมียไว้รอแล้วและหมู่มารเหล่านั้น เพื่อหวังว่าจะมีชีวิตที่มหัศจรรย์ที่ตัวเองใฝ่ฝันมาตั้งแต่เกิดแล้วนั้นเอง โดยมีการให้นางราคะลูกสาวพญามารอีกคนเป็นหุ่นเชิด คอยแต่งหน้าแต่งตัว และกรีดกรายไปโน้นมานี้สร้างกระแสและหลอกสื่อหน้าโง่ทั้งในและต่างประเทศว่ากำลังทำการบริหารทั้งๆที่เป็นเพียงตัวแทนแค่นั้นเอง ส่วนนางอรดีลูกสาวพญามารอีกคนก็เคลื่อนไหวร่วมกับเหล่าเสนามารเพื่อควบคุมคะแนนเสียงไม่ให้ตกและคอยจัดกิจกรรมทางการตลาดให้คึกคักและหลอกเอาใจหมู่มารทั้งหลาย พร้อมทั้งหลอกชาวบ้านตาดำๆอย่างเลือดเย็นอยู่เสมอๆ
ทั้งนี้ยังได้มีการกระทำการมอมเมาและมัวเมาคนในประเทศให้หลงใหลโดยใช้วีการสกปรก ลามก และต่ำช้าเพียงไรก็ตาม ใช้ไสยศาสตร์ และมนต์ดำ กระทำการหลบหลู่และย่ำยีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ วิญญาณบูรพกษัตริย์ทั้งหลาย และเจ้าที่เจ้าทางที่คอยดูแลและปกปักรักษาคุ้มครองประเทศและพระโพธิสัตว์ตลอดจนลูกหลานคนดีๆที่มาเกิดและอาศัยอยู่ในประเทศนี้ โดยหวังผลว่าจะไม่ให้ช่วยเหลือและคุ้มครองเขาเหล่านั้นได้นั้นเอง โดยหวังว่าจะให้ลุ่มหลง มัวเมาและเลือกข้างหมู่มารตลอดไปในทุกการเลือกตั้ง อีกทั้งมีการเข้าไปหากินและวุ่นวายกับพระอริยะเจ้าผู้บริสุทธิ์ เข้าไปดูแลแทรกแซงทรัพย์สินเงินทองและกิจการของพระพุทธศาสนา จนฟ้าดินต้องลงโทษตามคติโบราณที่ว่า จัญไร(กาลกิณี)ไฟไหม้ และพระอริยะเจ้าผู้ประเสริฐบริสุทธิ์ทั้งหลายได้ถูกนิมนต์จากเบื้องบนให้ละสังขารจากโลกมนุษย์และการเกลือกกลั้วจากหมู่มารทั้งหลาย โดยเฉพาะจากนางตัณหาและเสนามารนั้นเอง
และแล้วเบื้องบนก็หมดความอดทน ท่านพิโรธและต้องการที่จะทำการลงโทษ ในฐานะที่มนุษย์บนดาวดวงนี้ในประเทศนี้ ที่บังอาจเหิมเกริมและเลยเถิด ทำการลบหลู่สิ่งศักดิ์สิทธิ์โดยเฉพาะมหาเทพและพระโพธิสัตว์ทั้งหลาย ทั้งที่มีชีวิตอยู่และล่วงลับไปแล้ว จึงได้ทำการตักเตือนและสั่งสอนให้รู้สำนึกจากเบาไปหาหนัก เริ่มจาก มีคลื่นยักษ์ถล่มชายฝั่งมีคนตายมากมายและทรัพย์สินเสียหายประเมินค่าแทบไม่ได้ เท่านั้นยังไม่พอ ยังทำให้มีน้ำท่วมใหญ่เกิดมหาอุทกภัย ทั้งๆที่ตั้งแต่ตั้งประเทศนี้มาไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย ยังไม่พอแค่นั้น พระอัคคีผู้เป็นเทพแห่งไฟได้เผาผลาญและส่งรังสีความรัอนมากขึ้นๆ โดยพระอาทิตย์ถูกสั่งให้เคลื่อนเข้ามาใกล้ดาวดวงนี้ ความแห้งแล้วและเดือดร้อนใหญ่กำลังกำลังเพิ่มทวีคูณ เท่านั้นยังไม่พอพระแม่ธรณีโกรธจนตัวสั่น ทำให้แผ่นดินขยับเขยื้อนไม่รู้ว่าวันเวลาใดจะเกิดแผ่นดินไหวใหญ่ เท่านั้นยังไม่พอ พระพายเจ้าแห่งลมกำลังเล่นงาน โดยทำลมพายุหมุนถล่มตรงโน้นบ้างตรงนี้บ้าง เดือดร้อนกันไม่เว้นแต่ละวัน ที่เลวร้ายและเดือดร้อนหนักก็คือ พระพิรุณซึ่งเป็นเทพแห่งฝน มีคำสั่งไม่ให้พญานาคเล่นน้ำและปล่อยฝนลงมาเหมือนปกติ จึงเกิดความเดือดร้อน ความกันดาร ความแห้งแล้ง และการดำรงชีวิตที่ยากลำบากและอัตขัตขัดสน โดยเฉพาะเกิดการข้าวยากหมากแพง ซึ่งกำลังคืบคลานเข้ามาๆในทุกขณะๆ...
บัดนี้ ข้าพเจ้าได้รับรู้และรับทราบแล้วว่า มนุษย์และสิ่งมีชีวิตทั้งหลายไม่ใหญ่เกินกว่าธรรมชาติ กาลกิณีครองบ้านครองเมืองจะมีแต่ความเดือดร้อนและฉิบหายตามมา และ กฎแห่งกรรมมีจริง
(...เมื่อใหร่? คนดีๆ ที่อยู่ในศีลกินในธรรม จะมาช่วยชาติและเหล่ามนุษย์ในประเทศสารขันธ์นี้ซะทีหนอ! และเมื่อใหร่ประชาชนในประเทศสารขันธ์แห่งนี้จะมีหูตาสว่างเลิกมืดบอดซะทีหนอ! ?????????????...)
ศิษย์ตถาคต
๒ พฤษภาคม ๒๕๕๕